โชว์ผลงานเด่นด้านวัฒนธรรม เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ - ไทยรัฐ

liloeconomie.blogspot.com

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2560-2563) ในการดำเนินงานของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ภายใต้ผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขับเคลื่อนตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามวิสัยทัศน์ “วัฒนธรรมสร้างคนดี สร้างสังคมดี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” รวมทั้งนโยบาย รักษา สืบสาน ต่อยอด และปฏิบัติราชการตามหลักธรรมาภิบาล เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นความภาคภูมิใจที่ วธ.สร้างสรรค์ผลงานโดดเด่น สร้างความประทับใจ และความชื่นชมให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย การจัดสร้างพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบ รวมถึงบูรณะราชรถและพระยานมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีผู้เข้าชมกว่า 4 ล้านคน

การใช้มิติวัฒนธรรมสร้างภาพลักษณ์และเกียรติภูมิในเวทีโลก จากความสำเร็จของการนำเสนอ

“โขนไทย” และ “นวดไทย” เป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ รวมถึงการประกาศยกย่องสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นบุคคลสำคัญของโลกขององค์การยูเนสโก

ขณะเดียวกัน วธ.ให้การสนับสนุนการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง เชื่อมสัมพันธ์กับทั่วโลก พร้อมผลักดันให้ปี 2562 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน และได้ติดตามโบราณวัตถุของไทยจากต่างประเทศคืนสู่แผ่นดินไทย รวม 751 รายการ อีกทั้งมีการประกาศให้ฟิล์มกระจกเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก การนำเสนออนุสรณ์สถานและภูมิทัศน์วัฒนธรรมของเชียงใหม่ และพระธาตุพนม เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

การใช้มิติด้านศาสนาเสริมพลังกายและสร้างพลังใจให้แก่ประชาชน ประจักษ์ชัดจากงาน “สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วโลก ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายผลไปสู่วัดไทยทั่วโลก โดยปี 2563 มีพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรม 22.43 ล้านคน รวมทั้งมีการอุปถัมภ์คุ้มครองทุกศาสนา และจัดกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนาตลอดทั้งปี ที่สำคัญบุคลากรทุ่มเทสรรพกำลังในการรับสนองพระราโชบาย ในหลวง รัชกาลที่ 10 ในการปฏิบัติภารกิจงานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานฯ เพื่อดูแลผู้วายชนม์ และทายาทอย่างสมเกียรติ

การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการจัดกิจกรรมและนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพระราชสมภพ การจัดงานใต้ร่มพระบารมี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ นิทรรศการองค์ความรู้ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 และการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่

การใช้ศิลปะสร้างภาพลักษณ์และกระตุ้นการท่องเที่ยว จากการจัดการแสดงศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ ที่ จ.กระบี่ มีศิลปินไทยและต่างชาติเข้าร่วม 322 คน มีศิลปกรรมจัดแสดง รวม 338 ผลงาน ตลอดจนสามารถสร้างรายได้จากการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี โดยประเทศไทยมีศักยภาพเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และอันดับ 5 ในเอเชีย ขณะที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนด้วยการจัดตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม 92 แห่ง และจัดงานวัด 55 เมืองรอง โดยมีเงินหมุนเวียนในชุมชน 315 ล้านบาทต่อปี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของไทย (CPOT) และการส่งเสริมความเป็นไทยอาหารท้องถิ่น ผ้าไทยพื้นบ้าน อาหารอร่อย ร้าน 100 ปี

ด้านการอนุรักษ์และสืบทอดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรม มีการยกย่องเชิดชูเกียรติและส่งเสริมศิลปินทุกแขนง การประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและการขึ้นทะเบียนโบราณสถานทั้งยกระดับการจัดงานเทศกาลประเพณีให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ประเพณีผีตาโขน เป็นต้น

ที่สำคัญ วธ.ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาและพระราชดำริของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ในการใช้หลัก “บวร” สู่การปฏิบัติขับเคลื่อนให้เกิดชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ทั่ว ประเทศ 22,540 ชุมชน พร้อมต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน หรือ บวร On Tour 1,000 ชุมชน วางเป้าหมายสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1,800 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามยังมีการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และหอศิลป์แห่งชาติให้เป็นพื้นที่บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ธรณีพิบัติภัยสึนามิ จ.พังงา การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยพัฒนาระบบนำชมในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการทุกระดับ 

ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน บูรณาการวางรากฐาน ใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรม สร้างความสามัคคี ปรองดอง นำพาประเทศก้าวสู่ยุค New Normal และผลักดันก้าวสู่จุดหมายด้วยการสร้างความมั่นคงของชาติ พัฒนาคน สังคม สร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของประเทศไทยในเวทีโลกได้อย่างสง่างาม มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)

September 29, 2020 at 10:25AM
https://ift.tt/3jdW1x8

โชว์ผลงานเด่นด้านวัฒนธรรม เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ - ไทยรัฐ

https://ift.tt/375SP1C


Bagikan Berita Ini